Friday, January 14, 2011

ซามูไรเฉือนซีเรีย2-1,จอร์แดน1-0ถีบซาอุฯร่วง เอเชียนคัพ


support news by 12bet: www.12bet.com

        "ซามูไรสีน้ำเงิน" ญี่ปุ่น ออกแรงเหนื่อยอีกนัด ก่อนที่จะทุบ ซีเรีย หวุดหวิด 2-1 ขณะที่อีกคู่ ซาอุดีอาระเบียตกรอบเอเชียน คัพ เป็นที่เรียบร้อยหลังพ่ายจอร์แดน 0-1 ทำให้ญี่ปุ่นและจอร์แดนมี 4 คะแนนโอกาสเข้ารอบสดใส ในศึกเอเชียน คัพ รอบสุดท้าย กลุ่มบี เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา

     

เอ เชียน คัพ รอบสุดท้าย  กลุ่ม บี
วัน พฤหัสบดีที่ 13 มกราคม 2554
ซีเรีย 1 - ญี่ปุ่น 2

     

สนาม : กาตาร์ เอสซี สเตเดี้ยม, โดฮา กาตาร์

     ติต้า วาเลรุย กุนซือชาวโรมาเนียนของ ซีเรีย ปรับทัพจุดเดียวจากเกมปราบ ซาอุดิอาระเบีย 2-1 แค่ตำแหน่งเดียว ส่ง ซาเมอร์ อาวาด ลงมาเล่นแทน ซานฮาริบ มาลกิ ที่เหลือยึดผู้เล่นชุดเดิมมี  อับดุลราซัค อัล ฮูซีน ที่ซัดไป 2 ประตูในเกมแรก กับ โมฮัมหมัด อัล ซิโน่ เป็นหัวใจหลักของทีม ด้าน "ซามูไรสีน้ำเงิน" ญี่ปุ่น ที่รอดตายแบ่งแต้มมาหวุดหวิดในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ "อิลซัค" อัลแบร์โต้ ซัคเคโรนี่ กุนซืออิตาเลียนยึด11 คนแรกเป็นชุดเดิมทั้งหมด หน้าเป้ายังไว้วางใจให้ เรียวอิชิ มาเอดะ  ยืนค้ำ ขณะที่แนวรุกเป็นสามสตาร์อย่าง  ไดซึเกะ มัตซึอิ, เคซึเกะ ฮอนดะ และ ชินจิ คางาวะ โดยมี ยาซึฮิโตะ เอ็นโดะ กับ มาโกโตะ ฮาเซเบะ กัปตันทีมยืนเป็นมิดฟิลด์คู่กลางคอยคุมเกม


     เปิดฉากมาเป็น ซามูไรสีน้ำเงิน ครองเกมบุกเข้าใส่หมายทำประตูออกนำให้เร็วที่สุด และเกือบมาทำสำเร็จจากจังหวะที่ อัตสึโตะ อูชิดะ แบ็กขวาจาก ชาลเก้ ครอสบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ มาเอดะ เทกโหม่งบอลเต็มกบาลเฉียดเสาแรกออกไปไม่ถึงคืบ

     นาที 23 ฮอนดะ ซูเปอร์สตาร์จาก ซีเอสเคเอ มอสโก ต้องออกมาปฐมพยาบาลข้างสนามเนื่องจากปากแตกจากการไปถูกแขนของ โมซาบ บัลโอฮัส นายด่าน ซีเรีย กระแทกเข้าเต็มปากในจังหวะแย่งโขกลูกฟรีคิก


     ถัดมา  6 นาที ซีเรีย มาได้หวาดเสียวเล็กน้อยจากการลองตั้งป้อมส่องไกลของ อับดุลราซัค อัล ฮูซีน ที่ซัดบอลติดไซด์ระยะกว่า 30 หลาหลุดกรอบออกไป ซามูไรสีน้ำเงิน น่าได้อีกครั้งจากลูกเตะมุม เอ็นโดะ เปิดบอลเข้ามาเสาแรกให้ ยาซูยูกิ คอนโนะ กองหลังจึ้นมาโขกบอลไปเข้ามือ บัลโฮอัส รับไว้อยู่หมัด
     กระทั่งนาที 35 เป็น ญี่ปุ่น มาปลดล็อคพังประตูออกนำ 1-0 สำเร็จ จากจุดเริ่มของ ฮอนดะ ลากบอลสุดเส้นหลังมาตบเรียดเข้ากลางให้ คางาวะ แต่งหาจังหวะยิงไปติดบล็อค บัลโฮอัส บอลไหลออกมาเข้าทาง มัตซึอิ แปะบอลคืนหลังให้ ฮาเซเบะ เลือกแปบอลเรียดเข้าไปสู่ก้นตาข่ายที่โล่งโจ้งไม่มีเหลือ
     ซามูไรสีน้ำเงิน ยังไม่เพลาเกมเดินเกมบุกอย่างต่อเนื่อง และมาได้ลุ้นอีกครั้ง ฮอนดะ ไหลบอลขึ้นหน้ามาให้ มาเอดะ แต่งหาจังหวะอัดบอลบริเวณหัวกะโหลกหลุดเสาแรกออกไป
     ช่วงท้ายเกมนาที 43 ญี่ปุ่น น่าได้อีกคำรบ เอ็นโดะ เปิดลูกเตะมุมเข้ามาให้ มาเอดะ เจ้าเก่าโขกบอลหลุดกรอบออกหลังไปตามเคย จบเกมครึ่งแรกเป็น ญี่ปุ่น ออกนำ 1-0
     พักครึ่ง วาเลรุย เห็นลูกทีมเป็นรองสุดกู่จึงทำการปรับแท็กติกเปลี่ยนตัวคนแรกทันที ถอด อาวาด ที่แทบหายไปจากสนามออกมา และส่ง ฟิราส อัล คาติบ ลงไปเล่นแทน
     กลับลงสนามมาในครึ่งเวลาหลัง ญี่ปุ่น มาทิ้งโอกาสทองในการนำห่างออกไปอีก คางาวะ แทงบอลทะลุช่องให้ มาเอดะ ควบไปเอาบอลและยิงเรียดด้วยซ้ายไปติดบล็อค บัลโฮอัส ที่ออกมาบล้มตัวบล็อคไว้ได้ทัน
     เข็มนาฬิกาเดินผ่านชั่วโมงมาสองนาที ซีเรีย มาได้ลุ้นจากลูกนิ่ง อัล คาติบ โยนลูกเตะมุมเข้ามาให้ อาลี ดาหยัด เทกโหม่งบอลลงพื้นไปตรงตัว เอจิ ควาชิมะ รับไว้สบาย
     ทำไปทำมาเริ่มเป็น ซีเรีย ตั้งเกมติดครองบอลบุกใส่ทีมจากแดนอาทิตย์อุทัยต่อเนื่องและในนาที 70 ก็มาเกิดจุดพลิกผันและปัญหาของเกมเกิดขึ้นจนต้องหยุดเกมไปร่วม 5 นาที  จากจังหวะที่ คาวาชิมะเตะบอลเปิดเกมออกมาไม่ดีมาเข้าเท้านักเตะ ซีเรีย สวนกลับมาให้ มาลกิ ที่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าชัดเจน
     โดยผู้ช่วยผู้ตัดสินก็ยกธงเป็นลูกล้ำหน้า ทว่า โมห์เซน ทอห์คีย์ ผู้ตัดสินในเกมนี้กลับไปเป่าเป็นจังหวะฟาวล์ของ คาวาชิมะ ที่ตามมาชน มาลกิ จนคว่ำ พร้อมทั้งแจกใบแดงไล่ คาวาชิมะ ออกไปและให้จุดโทษแก่ ซีเรีย ด้วย
     ทำให้ ซัคเคโรนี่ ต้องปรับทัพถอด มาเอดะ ออกมา และส่ง ชูซากุ นิชิคาวะ ลงไปยืนเฝ้าเสา และเป็น ฟิราส อัล คาติบ รับอาสาสังหารบอลเรียดเสียบหน้าต่างเข้าประตูไป ชนิดที่ นิชิคาวะพุ่งสุดเหยียดแล้วก็ยังไม่ถึง ซีเรีย ตามตีเสมอเป็น 1-1
     เข้าอีหรอบนี้บรรดาแข้ง ซีเรีย ไม่รอช้าเปิดฉากกระหน่ำใส่ ญี่ปุ่น เต็มสูบ แต่เกือบมาหงายหลังจากลูกโต้กลับ ฮอนดะ รับบอลมาจากแดนกลางทำชิ่งหนึ่งสองกับ ชินจิ โอกาซากิ เข้าไปอัดบอลติดเซฟ บัลโฮอัส กระเด้งออกหลังไป
     แต่แล้วในนาที 85 กลับเป็น ญี่ปุ่น มาได้ลูกจุดโทษบ้างจากจังหวะที่ โอกาซากิ ลากบอลไปถูก ดาหยัด กับเบลัล อับดุลดาอิม เข้าอัดแซนวิชจนล้มคะมำ และเป็น ฮอนดะ ยิงบอลเรียดวัดใจเข้าไปกลางประตูตุงตาข่าย โดย บัลโฮอัสพุ่งเดาผิดไปคนละทาง ญี่ปุ่น นำอีกครั้งเป็น 2-1
     ช่วงเวลาที่เหลือเป็น ซีเรีย ดาหน้าบุกเข้าใส่เต็มพิกัด แต่แผงหลังของ ญี่ปุ่น ก็ช่วยป้องกันกันเอาไว้ได้หมด และช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที 94 ซีเรีย ก็มาเหลือ 10 คนเช่นกัน นาดิม ซาบักห์ ถูกใบเหลือง-แดงไล่ออกจากสนามไป
     จบเกม ญี่ปุ่น เฉือนชนะ ซีเรีย หวุดหวิด 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 4 คะแนน ส่วน ซีเรีย มีอยู่ 3 แต้มเท่าเดิม โดยทั้งสองทีมต้องไปลุ้นเข้ารอบในเกมนัดสุดท้าย รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

     ซีเรีย : โมซาบ บัลโฮอัส- เบลัล อับดุลดาอิม, อาลี ดาหยัด, อับดุลลาแดร์ เดก้า, นาดิม ซาบักห์ - อับดุลราซัค อัล ฮูซีน, เฟราส อิสมาอิล, เซฮัด อัล ฮูซีน (อับดุลลาฟาตาห์ อัล อักฮา น.77), ซาเมอร์ อาวาด (ฟิราส อัล คาติบ น.46), วาเอล อายาน - โมฮัมหมัด อัล ซิโน่ (ซานฮาริบ มาลกิ  น.64
     
ญี่ปุ่น  :
  เอจิ คาวาชิมะ - อัตสึโตะ อูชิดะ, ยาซูยูกิ คอนโนะ, มายะ โยชิดะ, ยูโตะ นากาโตโมะ - ยาซึฮิโตะ เอ็นโดะ, มาโกโตะ ฮาเซเบะ - ไดซึเกะ มัตซึอิ (ฮาจิเมะ โฮโซไก น.90), เคซึเกะ ฮอนดะ, ชินจิ คางาวะ (ชินจิ โอกาซากิ น.65) - เรียวอิชิ มาเอดะ (ชูซากุ นิชิคาวะ น.75)
     ผู้ตัดสิน : โมห์เซน ทอร์คีย์ (อิหร่าน)
     

จอร์แดน 1 - 0 ซาอุดีอาระเบีย

     สนาม :
อาห์เหม็ด บิน อาลี สเตเดี้ยม

     เกมนัดแรก จอร์แดน ยันเสมอ ญี่ปุ่น มาได้ 1-1 ส่วนซาอุฯ พลิกพ่าย ซีเรีย 1-2 ทำให้เกมนี้ยังต่างต้องการชัยชนะเพื่อต่อลมหายใจในการเข้ารอบ หากใครพลาดโอกาสเข้ารอบแทบหมดลุ้นทันที

     สตาร์ทเกมมาไม่กี่นาที ทีมเศรษฐีน้ำมัน ได้โอกาสลุ้นประตูก่อนจากลูกเตะมุม ไทเซอร์ อัล จาสซิม โยนบอลเข้ามาหน้าประตู โอซาม่า อัล ฮาร์บี้ กองหลังขึ้นโขกไปโดน อาเมอร์ ชาฟี่ เซฟได้หวุดหวิด

     นาที 16 ซาอุฯ น่าได้ประตูออกนำที่สุด โมฮัมเหม็ด อัล ชาลฮูบ บรรจงครอสบอลจากกราบซ้ายเข้ามาที่เสาสอง นาอิฟ ฮาซาซี่ ทะยานโขกจะเสียบเสาอยู่แล้วทว่ายังโดนนายทวารจอร์แดนพุ่งปัดออกไปหวุดหวิด

     หลังจากนั้นเกมเปิดแลกกันสนุก จนเกมดำเนินมาครบครึ่งชั่วโมง จอร์แดน มีโอกาสลุ้นประตูบ้าง โอได อัล ไซฟี่ ลองสับไกจากนอกเขตโทษ บอลพุ่งแรงเฉี่ยวเสาออกไปแบบได้ลุ้น

     ก่อนพักครึ่ง 3 นาที จอร์แดน มาได้ประตูออกนำอย่างโชคช่วย บาฮา อับดุลราห์มาน โยนบอลลึกจากฝั่งซ้ายเข้าไปหน้าประตู วาลีด อับดุลลาห์ นายทวารซาอุฯ ออกมากะจังหวะพลาดบอลลอยข้ามหัวเสียบเสาสองเข้าไปเป็นประตู 1-0 ก่อนจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

     ครึ่งหลัง ซาอุฯ มาเปิดเกมบุกเข้าใส่ก่อนหวังเอาประตูตีเสมอให้ได้ แต่ยังทำอะไรได้ไม่ถนัด อัล ชาลฮูบ เปิดฟรีคิกเข้ามาให้ ฮาซาซี่ ก็โหม่งออกไปแบบไม่ได้ลุ้น

     ช่วงเวลาที่เหลือ ทีมเศรษฐีน้ำมันยังคงบุกหนัก ทว่ายังไม่สามารถทำประตูตีเสมอได้ จบเกม จอร์แดน เฉือนเอาชนะ ซาอุฯ ไปได้ 1-0 มี 4 คะแนนโอกาสเข้ารอบสดใส ขณะที่ ซาอุฯ ยังไม่มีแต้มตกรอบค่อนข้างแน่แล้ว

     รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

     จอร์แดน :
อาเมอร์ ชาฟี่, ซูเลมาน อัล ซัลมาน, บาชาร์ บานี่ ยาซีน, โมฮัมหมัด โมเนอร์, บาเซ็ม ฟาตาฮี, อาเมอร์ ดีบ, บาฮา อับดุลราห์มาน, ชาดี้ อาบู ฮาชฮาช, โอได อัล ไซฟี่, อับดุลลาห์ ดีบ, ฮัสซัน อับเดล ฟัตตาห์

     ซาอุดีอาระเบีย : วาลีด อับดุลลาห์, อับดุลลาห์ ชูฮาอิล, โอซาม่า ฮาวซาวี่, โอซาม่า อัล ฮาร์บี้, คามิล อัล มูซ่า, อับโดห์ ออเตฟ, ซาอุด คารีรี่, ไทเซอร์ อัล จาสซิม, โมฮัมเหม็ด อัล ชาลฮูบ, นาอิฟ ฮาซาซี่, ยาสเซอร์ อัล คาห์ตานี่

No comments:

Post a Comment